สำหรับธุรกิจที่มีไอเดียและสนใจที่จะนำแอปมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆของธุรกิจ จำเป็นจะต้องเข้าใจพื้นฐานในด้านต่างๆเหล่านี้ ก่อนตัดสินใจทำโมบายแอป
- การทำแอปมี 2 ประเภท
โมบายแอปที่อยู่บน App Store และ Google Play จะมีแนวทางในการจัดทำด้วยกันอยู่ 2 แนวคือ- Project Based (Customization) คือการว่าจ้างพัฒนาตาม Requirement ของผู้ว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างสามารถกำหนดความสามารถที่อยากให้มีบนแอปได้อย่างอิสระ แต่ต้องไม่เกินขีดจำกัดของเทคโนโลยี การจัดทำแอปรูปแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูง แต่การจ้างทำแอปในแบบ Customization ผู้ว่าจ้างควรมีทีมงานที่มีความชำนาญหรือประสบการณ์ที่อยู่ในสายงานคอยให้คำแนะนำ เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ
- App builder platform คือ Platform สำหรับสร้างโมบายแอปในแบบสำเร็จรูป จะมาพร้อมกับฟีเจอร์พื้นฐานต่างๆครบครันให้เลือกใช้ จัดการแอปพลิเคชันได้ด้วยตนเองผ่านระบบหลังบ้าน (เว็บไซต์) ไม่ต้องมีความรู้ในการบริหารงานไอที ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม แต่ข้อจำกัดคือ แอปดังกล่าวอาจจะไม่เป็นไปตามที่ต้องการทั้งหมด แต่การันตีได้ว่าแอปสามารถใช้งานได้จริง เพราะส่วนใหญ่ Platform ประเภทนี้จะผ่านการสร้างแอปมาแล้วจำนวนมาก
- งบประมาณ
โมบายแอปที่เราเปิดใช้กันบนมือถือถึงขนาดหน้าจอจะเล็ก แต่ขั้นตอนในการพัฒนาไม่ง่ายอย่างที่คิด ประกอบกับการที่ต้องใช้ทีมพัฒนาที่มีความชำนาญและเข้าใจแนวทางการพัฒนาทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ (iOS, Android) มักจะตามมาด้วยต้นทุนในการพัฒนาที่สูงยิ่งขึ้น ปกติแล้วอาจจะใช้งบประมาณเริ่มต้นที่ 200,000 – 400,000 เป็นต้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแอป, ขนาดทีม และ ประสบการณ์ของบริษัทผู้รับจ้าง - เวลาในการดำเนินการ
การนำแอปพลิเคชันเข้าสู่ Store จะมีขั้นตอนหลักอยู่ 3 ส่วนประกอบด้วย- การพัฒนา (Development) โดยปกติแล้วถ้านับจากการเก็บ Requirement จนกระท้ังพัฒนาแอปแล้วเสร็จจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 2-6 เดือนขึ้นอยู่กับความสามารถของแอปที่ต้องการ
- การสมัคร Developer Account เพื่อเปิดสิทธิ์การนำแอปเข้าสู่ Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS หากจดทะเบียนในนามนิติบุคคลจะใช้เวลารวมแล้วประมาณ 20-40 วัน (มีขั้นตอนการ verify บริษัทจากทาง Apple) และระบบปฏิบัติการ Android ใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน
- การส่งแอปเข้าสู่ Store (Publish Application)
เป็นส่วนสำคัญที่สุด เนื่องจากแอแปพลิเคชันจะต้องไม่ผิดเงื่อนไข และข้อจำกัดของแต่ละระบบปฏิบัติการที่กำหนด โดยในขั้นตอนนี้ Android จะใช้เวลาประมาณ 1-5 วัน และ iOS ใช้เวลาประมาณ 4-10 วันโดยประมาณ
- โอกาสที่แอปจะสำเร็จ
การสร้างแอปแบบ Customization ธุรกิจควรมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำทางด้านไอทีหรือมาสายพัฒนาซอฟต์แวร์ จะช่วยลดความเสี่ยงที่แอปพลิเคชันออกมาไม่ตรงกับที่อยากได้, งบประมาณบานปลาย, ความไม่ชัดเจนในตัวฟังก์ชันของแอป มีการปรับเปลี่ยนบ่อย หรือแม้แต่ทีมพัฒนาที่ไม่มีประสบการณ์ ทั้งหมดอาจส่งผลให้แอปที่ออกมาไม่ใช่แอปที่อยากได้ในตอนแรก ซึ่งจะแตกต่างจากการทำแอปในรูปแบบ App builder platform ที่ผ่านการสร้างแอปแล้วจำนวนมาก สามารถขอดูตัวอย่างลูกค้าที่ทำแอปกับ Platform ได้ ช่วยให้เห็นแอปจริงก่อนตัดสินใจใช้บริการ แต่มีข้อจำกัดในด้านฟังก์ชันที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด